วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดอกชวนชมดอกซ้อน


ชวนชม ทั่วไปจะมีกลีบดอกชั้นเดียว มีหลายสี สวยงามน่าชมมาก ส่วน"ชวนชมดอกซ้อน" เป็นพันธุ์ ใหม่ล่าสุดเพิ่งพบมีต้นวางขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งนอกจากดอกจะเป็น 2 ชั้นแล้ว ดอกยังมีขนาดใหญ่ และดกอีกด้วย ผู้ขายบอกว่าชวนชมชนิดนี้เกิดจากการผสมพันธุ์ด้วยฝีมือคนไทย โดยวิธีเขี่ยเกสรแล้วได้ลูกไม้ใหม่ออกมา มีดอกเป็น 2 ชั้น แตกต่างจากดอกชวนชมทั่วไป มีด้วยกันหลายเบอร์ แต่ละเบอร์จะมีสีไม่เหมือนกัน ผู้ผสมพันธุ์ตั้งชื่อว่า "ชวนชมอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นัมเบอร์วัน" (ภาพเสนอประกอบคอลัมน์เป็นชนิดเบอร์ 1) พร้อมทำต้นเสียบยอดกับตอชวนชมพื้นเมืองออกจำหน่าย กำลังเป็นที่ฮือฮาอยู่ในเวลานี้

ชวน ชมดอกซ้อน หรือ "ชวนชมอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นัมเบอร์วัน" มีลักษณะทุกอย่างเหมือนชวนชมทั่วไป อยู่ในวงศ์ APOCYNACEAE เป็นไม้พุ่มสูง 1-1.5 เมตร ลำต้นกลมเกลี้ยง สีเขียวอมเทา ทุกส่วนของต้นมียางขาว ใบเป็นใบเดี่ยว มักออกหนาแน่นบริเวณปลายกิ่ง ใบเป็นรูปช้อน ปลายใบมน โคนเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา ผิวใบและขอบใบเรียบ เป็นสีเขียวสด

ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 5-7 ดอก ดอกจะทยอยบานครั้งละ 3-4 ดอก ดอกโคนเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนกันเป็น 2 ชั้น สีชมพูเข้ม ผนังหลอดดอก ด้านในเป็นสีเหลือง มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ดอกบานเต็มที่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-7 ซม. เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันจะดูสวยงามคล้ายดอกกุหลาบ น่ารักน่าชมเป็นอย่างยิ่ง "ผล" เป็นฝักคู่ รูปยาวรี เมื่อฝักแก่ แตกอ้า ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ปักชำกิ่ง ตอนกิ่ง และเสียบยอดกับตอชวนชมพื้นเมือง ปัจจุบัน "ชวนชมดอกซ้อน"หรือ "ชวนชมอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นัมเบอร์วัน" มีต้นขายที่ตลาดนัด ไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง "คุณตวงทอง" ราคาสอบถามกันเอง

ลักษณะ เป็นไม้ชอบแดด? ไม่ชอบน้ำท่วมขัง นิยมปลูกลงกระถางใหญ่หรือเล็กตามขนาดของต้นที่จะปลูก เครื่องปลูกใช้ดิน 1 ส่วน อิฐมอญ ถ่านดำ ทุบเป็นก้อนเล็กๆ กาบมะพร้าวแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ อย่าง ละ 1 ส่วน คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน ทำทางระบายน้ำก้นกระถางให้ดี จากนั้นนำต้นลง ปลูก นำกระถางไปตั้งประดับในที่มีแสงแดด ส่องถึงตลอดวัน รดน้ำพอชุ่มวันละครั้งตอนเช้า บำรุงปุ๋ยมูลสัตว์จำพวกขี้วัว หรือขี้ควายแห้งโรยตามหน้าดินเล็กน้อย หรือบางๆเดือนละครั้ง สลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ครึ่งเดือนครั้ง จะทำให้ "ชวนชมดอกซ้อน"หรือ "ชวนชมอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ นัมเบอร์วัน" แตกกิ่งก้านสาขาเพิ่มขึ้น และมีดอกดกสวยงามไม่ขาดต้น ที่สำคัญเวลาแตกกิ่งก้านมาก หรือกิ่งยาวเกินต้องการ สามารถตัดนำไปปักชำเป็นต้นใหม่ได้ครับ.

นิทานเรื่อง คนอ้วนกับหมี

อ้วนผอมเพื่อนคู่ซี้นักเดินทาง กำลังเดินคู่กันมาด้วยความสามัคคีไปตามทางในป่าและพูดคุยกันไปอย่าง สนุกสนาน..แล้วอยู่ ๆในทันทีนั้นก็มีหมีป่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากพุ่มไม้ตรงด้านหลังของทั้ง สองโดยไม่ทันรู้ตัว...เจ้าหมีป่าตัวใหญ่หมายจะทำร้ายนักเดินทางทั้งสองอย่างจงใจนั่นเอง..." โฮก..ก้าวว์ " มันร้องคำรามแล้วก้าวย่างสามขุมเข้ามา.." จ๊าก..หมี ๆๆ ช่วยด้วย " อ้วนผอมนักเดินทางทั้งสองพอเห็น และรู้ตัวเข้าเท่านั้นก็ร้องลั่นและต่างก็พากันวิ่งหนีโกยอ้าวออกไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิตเลยทีเดียว... ผอมนักเดินทางนั้นตัวเบาเมื่อวิ่งไปและเหลือบไปเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งเข้าที่ข้างทางก็ปีนหนีขึ้นไปบน ต้นไม้ต้นนั้นด้วยความเร็ว...ส่วนอ้วนนักเดินทางเพื่อนคู่ซี้นั้นตัวอ้วนและหนักเลยไม่สามารถที่จะปีน ขึ้นไปได้..
อ้วนนั้นด้วยความกลัวอย่างสุด ๆเหมือนกันจึงตะโกนบอกอ้อนวอนผอมเพี่อนคู่ซี้ให้ช่วยด้วยว่า " ว้า..เรา ปีนขึ้นไปไม่ได้..ช่วยดึงมือเราหน่อยสิ ช่วยให้เราหนีขึ้นไปบนนั้นด้วยคนสิเพื่อน..ช่วยดึงมือเราหน่อย " ผอมเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตอบปฏิเสธให้เป็นพันละวันว่า " ไม่ได้..ไม่เอา ตัวอ้วน ๆหนัก ๆอย่างเจ้า..ถ้าข้าขืน ช่วยดึงให้เดี๋ยวข้าก็พลัดตกลงไปอยู่ข้างล่างด้วยน่ะสิ...ข้ากลัวโดนหมีทำร้ายและกินเข้าไปน่ะสิวะ ..ไม่เอา ด้วยหรอก..ข้ายังไม่อยากตาย " อ้วนให้เป็นเสียใจกับความเห็นแก่ตัวคิดเอาตัวรอดแต่คนเดียวของผอม เพื่อนคู่ซี้คนนี้มากแต่เจ้าหมีป่านั้นมันกำลังตามเข้ามาจนเกือบจะถึงตัวอยู่รอมร่อนี่แล้ว อ้วนจึงด้วยความ กลัวและไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีเลยอยู่ ๆก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้าอยู่ตรงนั้นและทำเป็นสลบนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้วนั่นเอง...
อ้วนนั้นเคยได้ยินคนแก่ ๆผู้มีประสบการณ์เคยบอกว่า " เมื่อเจอหมีและจนตัวหนีไม่ทันละก็ ให้แกล้งลงนอน ทำเป็นตายนะเพราะหมีมันมีสัญชาติญาณอยู่ว่ามันจะไม่กินของที่ไม่มีชิวิตน่ะจำคำนี้เอาไว้ก็แล้วกันถ้ารักจะ เดินทางน่ะ เชื่อเถอะ.. "อ้วนนอนนึกถึงคำสอนอันนี้ขึ้นมาได้เลยนอนนิ่ง ๆแกล้งทำเป็นตายไม่กระดุกกระดิก เลยทีเดียว เจ้าหมีป่าเมื่อตามมาทันและเห็นว่าเยื่อของมันนั้นสงสัยจะตายไปแล้วก็เข้ามาดมไปตามหน้าตาม หูของเหยื่อเพื่อให้แน่ใจว่าตายแน่หรือยัง มันดมสำรวจอยู่สักพักจนมันแน่ใจว่าคงตายไปแล้วเพราะไม่เห็น กระดุกกระดิกตรงไหนเลยมันเลยถอยและเดินจากตรงนั้นไปอย่างหมดหวัง...ผอมที่อยู่บนต้นไม้เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้นและหมีก็จากไปแล้วจึงค่อย ๆลงมาจากต้นไม้และรีบเข้าไปเขย่าอ้วนให้ลุกขึ้นและพูดว่า " เฮ้อ..รอดไปที เจ้าหมีมันหนีไปแล้วหละ ทำไมมันถึงหนีไปก็ไม่รู้..นี่อ้วนนายคิดว่ายังไงหือ? ว่าทำไมมัน ถึงหนีไปน่ะ
"
"แล้วเมื่อกี่นี้..เราเห็นหมีมันทำท่าทางเหมือนเข้าไปกระซิบอะไรที่ข้างหูนายหรือ?..มันกระซิบบอกอะไรนาย ล่ะ ?" อ้วนจึงลุกขึ้นมาแล้วพูดกับผอมว่า " เออ..หมีมันกระซิบบอกกับเราว่า..เพื่อนที่ถึงเวลาที่กำลังเดือด ร้อนและมีอันตรายนั้นตัวเองหนีรอดได้คนเดียวก็เป็นใช้ได้นั้นน่ะ..ไม่ใช่เพื่อนจะเอามาเป็นเพื่อนผู้ร่วมเดิน ทางด้วยนั้นไม่ได้หรอก..แล้วมันยังบอกอีกด้วยว่าเพื่อนผู้ร่วมเดินทางผู้ที่เวลาที่กำลังเดือดร้อนและได้อัน ตรายแล้วช่วยกันหาทางให้พ้นอันตรายด้วยกันนั้นคือเพื่อนแท้ด้วยหละ นายว่าจริงอย่างที่มันกระซิบ บอกหรือปล่าวล่ะ แต่เราน่ะเชื่อมันแหละ..ว่าจริงอย่างที่มันกระซิบบอกจริง ๆ " พูดจบแล้วอ้วนก็ออก เดินจากตรงนั้นและจากผอมไปในทันทีปล่อยให้ผอมยืนงงอยู่อย่างนั้นโดยไม่ทันได้คิดหาคำตอบแก้ตัว ได้แต่อย่างใด...
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนที่เห็นแก่ตัวชอบเอาตัวรอดแต่ผู้เดียวนั้นไม่ใช่เพื่อนแท้อย่างแน่นอน